ESG กุญแจสู่ความยั่งยืน เปิดประตูโลกใบใหม่กับการแก้ไขวิกฤตโลก

ESG กุญแจสู่ความยั่งยืน เปิดประตูโลกใบใหม่กับการแก้ไขวิกฤตโลก
ESG กุญแจสู่ความยั่งยืน เปิดประตูโลกใบใหม่กับการแก้ไขวิกฤตโลก
แนวคิด ESG ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในการบริหารองค์กรและดำเนินธุรกิจในยุคที่ความยั่งยืนคือหัวข้อหลัก โดยครอบคลุม 3 ด้านหลัก ได้แก่ E – Environmental หรือ สิ่งแวดล้อม S – Social หรือ สังคม และ G – Governance หรือ บรรษัทภิบาล ซึ่งเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC ได้มีการขับเคลื่อน ESG ผ่านการออกนโยบายและการลงมือดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
 
   สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างยั่งยืนได้ จึงเป็นเรื่องของความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่การเป็น ‘ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน’ ของ SCGC ซึ่งสะท้อนผ่านนวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชันต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและอุตสาหกรรม ไปพร้อมกับการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
 
   เราได้รับเกียรติจาก คุณธนวงษ์ อารีรัชชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เคมิคอลส์ มาเล่าให้เราฟังถึงวิสัยทัศน์ มุมมอง และเส้นทางของ SCGC ผ่านกุญแจสำคัญที่เรียกว่า ESG เพื่อนำพาองค์กร ประเทศไทย และโลก ให้เดินหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน
 

 
Q: ESG มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ต่อเนื่องไปจนถึงอนาคตอย่างไร
 
คุณธนวงษ์ : อย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้ตั้งแต่ภาพรวมใหญ่ของทั้งโลก ปัญหาสิ่งแวดล้อมส่งผลกระทบให้เห็นอย่างต่อเนื่อง อย่างภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศ (Climate Emergency) หรือทรัพยากรธรรมชาติที่มีแต่จะขาดแคลนลง หรืออย่างในชีวิตประจำวันที่เราจะต้องเผชิญกับปัญหารอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นมลพิษ ส่งผลต่อไปถึงปัญหาสังคม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเชื่อมโยงกับกิจวัตรของทุกคนอย่างแท้จริง
 
SCGC ในฐานะภาคธุรกิจซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เราดำเนินธุรกิจด้วยแนวทาง ESG ผ่านนโยบายต่าง ๆ ในโครงการที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ เพื่อมุ่งสร้างสรรค์เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ทั้งยังเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจและกำกับดูแลกิจการภายในที่โปร่งใส คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้คนรอบด้าน ESG จะช่วยทำให้สามารถขับเคลื่อนองค์กร ควบคู่ไปกับการดูแลโลกให้น่าอยู่มากขึ้นได้
 

 
Q: นโยบายหรือแผนดำเนินงานตามแนวทาง ESG ของ SCGC เป็นอย่างไรบ้าง
 
คุณธนวงษ์ : SCGC มุ่งสู่การเป็น ‘ธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน’ ที่ขับเคลื่อนด้วย ESG โดยการใช้นวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านสินค้า บริการ หรือโซลูชันต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
 
เริ่มต้นจาก E – ด้านสิ่งแวดล้อม เราใช้ความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสินค้า บริการ และโซลูชันต่าง ๆ ที่ตอบกับความต้องการของผู้บริโภค และอุตสาหกรรม ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์สำคัญของเราอย่าง SCGC GREEN POLYMER™ ซึ่งมีโซลูชันครบ 4 ด้าน ได้แก่ Reduce เราคำนึงถึงตั้งแต่ต้นทางในสายการผลิต ด้วยการออกแบบเม็ดพลาสติกพร้อมกับเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้เม็ดพลาสติกน้อยลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการใช้งานไว้อย่างครบครันหรือดีกว่าเดิม Recyclable เราคิดต่อเนื่องไปจนถึงปลายทางของผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ที่จำเป็นจะต้องสามารถนำมารีไซเคิลหมุนเวียนกลับมาเป็นเม็ดพลาสติกใหม่ได้ หรือกลายเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับธุรกิจเคมีภัณฑ์ได้ ซึ่งก็นับเป็นโซลูชันด้าน Recycle ของเราด้วยเช่นกัน และสุดท้าย Renewable เป็นการนำวัตถุดิบทางธรรมชาติมาเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เป็นการลดก๊าซเรือนกระจกที่จะถูกปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม
 
นอกจากนี้ยังมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ ช่วยลดการใช้พลังงาน ตอบโจทย์ทางธุรกิจและโลกไปพร้อม ๆ กัน และที่สำคัญยังเป็นการตอบลูกค้าที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
 

 
ในส่วนของ S – ด้านสังคม เราให้ความสำคัญต่อบุคลากรทุกภาคส่วน ตั้งแต่พนักงาน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้เดินไปข้างหน้าได้ โดยจะดูแลเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนเห็นเป้าหมายและทิศทางในการขับเคลื่อนแนวทาง ESG ไปพร้อมกับองค์กร ส่วนการอยู่ร่วมกับภาคชุมชนก็เป็นเรื่องที่สำคัญ การที่จะดูแลและทำให้ชุมชนเติบโตไปพร้อมกับเรา SCGC ก็พร้อมสนับสนุนทุกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชน เช่น เว็บแอปพลิเคชัน KoomKah ช่วยเหลือธนาคารขยะในชุมชน หรือโครงการถุงนมกู้โลก ซึ่งให้ความรู้กับเด็ก ๆ ให้รู้ว่าถุงนมโรงเรียนที่เด็ก ๆ ดื่มนั้นสามารถนำกลับมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
 
และสุดท้ายที่ G – ด้านธรรมาภิบาล เป็นเรื่องที่ SCGC ยึดหลักด้านความโปร่งใสมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน และจะยังยึดหลักนี้ต่อไป
 

 
Q: นอกเหนือจาก ESG แล้ว ยังมีปัยจัยอื่นใดอีกที่จะช่วยส่งเสริมในการพัฒนาธุรกิจและโลกใบนี้ให้ยั่งยืนได้พร้อมกันได้
 
คุณธนวงษ์ : ผมเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน หรือองค์กรต่าง ๆ หากมีการขับเคลื่อนไปพร้อมกันก็จะเกิดเป็นแรงกระเพื่อมที่จะผลักดันโครงการต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
 
SCGC พร้อมที่จะขับเคลื่อน ESG ไปกับองค์กรต่าง ๆ เราเชื่อว่าการทำงานร่วมกันจะเป็นประโยชน์กับทั้งประเทศ และการดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อม เราทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การส่งต่อโลกที่ยั่งยืนน่าอยู่ต่อไปให้กับคนรุ่นหลัง จึงเป็นหน้าที่ของคนรุ่นเรา ในการที่จะวางแผนงาน นโยบาย และใช้ความเชี่ยวชาญในมือมาสรรสร้างรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ที่คำนึงถึงทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน แม้จะนับว่าเป็นเรื่องท้าทาย เพราะคำตอบที่จะต้องค้นหาในการดำเนินการเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายด้านความยั่งยืนของแต่ละองค์กรอาจจะแตกต่างกันไป แต่ผลลัพธ์จากความพยายามที่จะส่งต่อความยั่งยืนให้กับผู้คนและโลกใบนี้ นับว่าคุ้มค่าและเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องตระหนักอยู่ในหัวใจของคนทำธุรกิจ รวมทั้งในจิตสำนึกของผู้คนยุคนี้ทุก ๆ คน