`‘Tethered Cap’ ดีไซน์ใหม่ พลิกโฉมฝาขวดใหม่สู่อนาคตที่ยั่งยืน`

อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ขับเคลื่อนโดยการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นวัตกรรมที่ดูเหมือนเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ อย่าง ‘Tethered Cap’ หรือ ‘ฝาขวดที่ยึดติดกับคอขวด’ กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติการออกแบบครั้งใหญ่ ที่กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมูลค่ามหาศาล

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่มีที่มาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริง และวันนี้ All Around Plastics จะมาชวนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และเครื่องดื่มมาทำความเข้าใจพร้อมปรับตัวก้าวทันตามกระแสโลก พร้อมมอบโอกาสทางธุรกิจครั้งสำคัญ ไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

`ปัญหาเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม : ทำไม ‘ฝาขวด’ ต้องติดกับขวด ?`

หลายคนอาจไม่เคยตระหนักว่า ‘ฝาขวดพอลิเมอร์’ ชิ้นเล็ก ๆ ที่เราเปิดทิ้งไว้ อาจบังเอิญหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม ข้อมูลจากการเก็บขยะชายหาดทั่วโลกจัดอันดับให้ฝาขวดน้ำเป็น 1 ใน 5 ของขยะที่พบบ่อยที่สุดในทะเล ด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา ทำให้ฝาเหล่านี้หลุดรอดจากระบบการจัดการขยะได้ง่าย อาจกลิ้งหล่น ตกสู่ท่อระบายน้ำ และไหลลงสู่แม่น้ำและมหาสมุทรในที่สุด Tethered Cap จึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ที่ต้นเหตุ ด้วยหลักการง่าย ๆ คือ การทำให้ฝาและขวดยังคงอยู่ด้วยกันตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ช่วยลดโอกาสที่ฝาจะกลายเป็นขยะในสิ่งแวดล้อม และทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งขวดและฝาจะถูกรวบรวมและส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์

`ธุรกิจไทยควรเตรียมพร้อม กับกฎหมาย EU สู่มาตรฐานใหม่ของโลก`

การเปลี่ยนผ่านสู่ Tethered Cap ไม่ใช่แค่กระแสแฟชั่นรักษ์โลก แต่เป็นมาตรฐานใหม่ที่กำลังถูกบังคับใช้ในระดับโลก โดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญคือ ข้อบังคับ Single-Use Plastics (SUP) Directive (EU) 2019/904 ของสหภาพยุโรป ซึ่งกำหนดให้ฝาของขวดเครื่องดื่มพลาสติกที่มีความจุไม่เกิน 3 ลิตร ต้องยึดติดกับขวดตลอดการใช้งาน โดยมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ไปแล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2024 กฎหมายฉบับนี้ได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก ผลักดันให้ตลาดในภูมิภาคอื่น เช่น แคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย เริ่มพิจารณาออกกฎหมายในลักษณะเดียวกัน สำหรับแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลก เพื่อปรับเปลี่ยนดีไซน์บรรจุภัณฑ์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกเพื่อรองรับกฎหมายสากล

แล้วประเทศไทยอยู่ตรงไหนในสมการนี้ ? แม้ปัจจุบันไทยจะยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้ Tethered Cap โดยตรง แต่ทิศทางของภาครัฐ ผ่านแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างพระราชบัญญัติการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนมองได้ว่ามีหัวใจสำคัญคือการนำหลักการ Extended Producer Responsibility (EPR) มาบังคับใช้ ดังนั้นการเตรียมพร้อมทำความเข้าใจล่วงหน้าจึงนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

`เจาะลึกเบื้องหลังการออกแบบ: มาตรฐานใหม่สำหรับฝา Tethered Cap`

การเปลี่ยนผ่านสู่ Tethered Cap เน้นไปที่การเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ซึ่งต้องการนวัตกรรมและความร่วมมือในระดับอุตสาหกรรมทั้งในด้านการออกแบบฝาและกระบวนการผลิต เพื่อให้ฝาดีไซน์ใหม่นี้สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ในสายการผลิตความเร็วสูง พร้อมตอบโจทย์การใช้งานผู้บริโภคได้ดีเหมือนเดิม หัวใจสำคัญของการออกแบบอยู่ภายใต้มาตรฐานเฉพาะที่อ้างอิงจากข้อบังคับของสหภาพยุโรป (Single-Use Plastics (SUP) Directive (EU) 2019/904) ซึ่งระบุถึงคุณสมบัติเชิงกลที่สำคัญ เพื่อให้ฝาขวดแบบใหม่ทำงานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ได้แก่

ความทนทานต่อแรงดึง (Tensile Strength): ส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างฝาและขวด (Tether) ต้องถูกออกแบบและผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อแรงดึงได้ อย่างน้อย 25 นิวตัน (N) เพื่อให้มั่นใจว่าฝาจะไม่หลุดขาดออกจากขวดโดยง่ายในระหว่างการใช้งานปกติ หรือแม้แต่เมื่อถูกดึงโดยตั้งใจ
ความทนทานต่อการใช้งานซ้ำ (Durability): ฝาและส่วนบานพับต้องสามารถทนทานต่อการเปิด-ปิดซ้ำ ๆ ได้ โดยไม่เกิดความเสียหายหรือการฉีกขาด เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถใช้งานได้ตลอดอายุของผลิตภัณฑ์
ความเข้ากันได้กับระบบและวัตถุดิบเดิม (Compatibility): ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งในเชิงธุรกิจ ฝาดีไซน์ใหม่จากเม็ดพลาสติกในปัจจุบันจะต้องสามารถใช้งานได้กับคอขวด PET ที่เป็นมาตรฐานสากลในอุตสาหกรรมซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ และต้องเข้ากันได้กับสายการผลิตเดิม โดยคำนึงถึงการปรับเปลี่ยนที่กระทบต่อการผลิตน้อยที่สุด เพื่อควบคุมต้นทุนการผลิตในช่วงการเปลี่ยนผ่าน

`SCGC กับโซลูชันฝาขวดใหม่ ‘Tethered Cap’`

ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกล SCGC ไม่ได้รอให้กฎหมายมาถึง แต่ได้ก้าวขึ้นมาเตรียมความพร้อมให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ ผ่านการร่วมมือกับ SACMI ผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตฝาจากอิตาลี เพื่อพัฒนาโซลูชันฝาขวดน้ำอัดลมดีไซน์รักษ์โลกแบบ Tethered Cap ให้เหมาะสมสำหรับตลาด พร้อมมีเกรดพลาสติกที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการ เช่น SX002J SX002JA H355JA H455JA ที่ได้ผ่านการทดสอบจากผู้เกี่ยวข้องในวงการต่าง ๆ ตั้งแต่ผู้ออกแบบฝาขวดน้ำ (Cap Designer) รวมถึงมีการใช้งานในระดับอุตสาหกรรมการผลิตจริงสำหรับเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม น้ำอัดลม รวมไปถึงการบรรจุแบบปลอดเชื้อ จึงมั่นใจได้ว่าผ่านการทดสอบแล้วว่ามีคุณสมบัติตรงครบทุกความต้องการใช้งาน

ในวันนี้เราจะมาแนะนำหนึ่งในเกรดพลาสติกที่น่าสนใจ SCGC™ HDPE เกรด SX002J นวัตกรรมเม็ดพอลิเมอร์ชนิด HDPE ที่ถูกออกแบบทางวิศวกรรมมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายที่ซับซ้อนของ Tethered Cap โดยเฉพาะมีคุณสมบัติเด่นในเรื่อง ความแข็งและความเหนียวที่ออกแบบอย่างลงตัว (Stiffness-Toughness Balance) โดยส่วนของตัวฝาต้องมีรูปทรงที่ดี มีความแข็งแรงสูงพอที่จะทนต่อการบิดเบี้ยว ในขณะที่ส่วนของสายรัด (Tether) ที่ต้องมีความยืดหยุ่นและเหนียวเป็นพิเศษ เพื่อให้ทนทานต่อการบิด เปิด-ปิดซ้ำหลายครั้งโดยไม่ฉีกขาด ซึ่งผ่านการทดสอบและรับรอง ไปจนถึงการทำงานจริงร่วมกับผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะสามารถเปลี่ยนผ่านสู่การผลิต Tethered Cap ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมให้ผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์นำไปปรับใช้ได้ทันที ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างทันท่วงที

`ตลาดวงการเครื่องดื่มไทยเริ่มแล้ว`

ปัจจุบันเราได้เห็นแบรนด์เครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ในไทยเริ่มนำร่องใช้ Tethered Cap กับผลิตภัณฑ์ของตนเองแล้ว ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่และกระตุ้นให้ตลาดเกิดการรับรู้ในวงกว้างกับการออกแบบที่ริเริ่มจากการแก้ปัญหาขยะเพื่อช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ในส่วนผู้บริโภคในปัจจุบันได้เริ่มมีการปรับตัวคุ้นชินกับการใช้งานมากขึ้น นี่จึงนับว่าเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ที่ช่วยสร้างภาพลักษ์ทางการตลาดใหม่ให้ Tethered Cap ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค และทำให้ทุกคนรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมในการรักษ์โลก ซึ่งจะช่วยนำไปสู่โอกาสการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกและความผูกพันกับแบรนด์ได้

`ก้าวต่อไปของฝาขวดใหม่ในวงการบรรจุภัณฑ์ไทย`

Tethered Cap ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คืออนาคตของบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้คือโอกาสสำคัญในการยกระดับแบรนด์สู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก พร้อมตอบสนองต่อความต้องการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม จากผู้บริโภคยุคใหม่ นับว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

ที่มา: