ย้อนไปหลายสิบปีก่อน เอกศิลปกรุงเทพ คือบริษัทที่ทำธุรกิจขายส่งและแปรรูปแผ่นอะคริลิกและพีวีซีสำหรับงานป้ายโฆษณา ถือเป็นธุรกิจแรกของครอบครัว ‘สิทธิจิตวัฒน์’ ที่บุกเบิกโดย คุณประสิทธิ์ สิทธิจิตวัฒน์ ด้วยประสบการณ์และวิสัยทัศน์จึงเปิด บริษัท นวนครพลาสติก จำกัด ขึ้นมาเมื่อปีพ.ศ.2537 เพื่อรองรับการแข่งขันที่มากขึ้น โดยเป็นผู้นำเข้า ผู้แทนจำหน่ายแผ่นพลาสติกและผู้แปรรูปพลาสติก รูปแบบแผ่น แท่ง และท่อ โดยมีประเภทพลาสติกที่หลากหลายกว่าเดิม เช่น PC, PP, PETG, PA6, MC NYLON, POM, HDPE, UHMW-PE, PEEK, PI, PTFE, ABS, HI.PS, PAI และ PEI เป็นต้น

           ณ วันนี้ รุ่นคุณพ่อส่งไม้ต่อให้กับรุ่นลูก โดยมี คุณจักรพงศ์ สิทธิจิตวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอาณาจักรแห่งนี้ที่ดำเนินธุรกิจมา 2 ทศวรรษแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะระบบการจัดการ

           “ก่อนนี้เราเป็นธุรกิจครอบครัว แต่เมื่อเปิดโรงงานผมต้องสร้างระบบการทำงานขึ้นมา ทั้งระบบบัญชี คลังสินค้า การควบคุมการผลิตและคุณภาพ ความปลอดภัยในการทำงาน ฯลฯ การย้ายมาอยู่ที่นวนครทำให้เราเปิดตลาดใหม่เข้าสู่กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเต็มตัว สำหรับงานแปรรูปพลาสติกนั้นเป็นการเปลี่ยนรูปแบบจากแผ่นไปเป็นชิ้นงานตามที่ลูกค้าต้องการด้วยการตัด พับ เจาะ อบขึ้นรูปด้วยความร้อน การประกอบ การเชื่อมด้วยความร้อน การตกแต่งขอบชิ้นงาน โดยเรามีช่างผู้ชำนาญการและเครื่องจักรที่ทันสมัยซึ่งเราลงทุนเพิ่มขึ้นทุกปี ในส่วนของลูกค้า เราอยากเป็น One-Stop Service สำหรับงานพลาสติกแผ่นแท่งทุกชนิดจึงขยายไลน์สินค้าให้กว้างขึ้นโดยการนำเข้าพลาสติกจากต่างประเทศ และขยับเข้าสู่การเป็น OEM ผลิตชิ้นงานให้กับลูกค้า นอกจากนี้เรายังเป็น Solution Provider ในการเลือกใช้พลาสติกให้กับลูกค้าอีกด้วย”

            แม้ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อสร้างมาตรฐานและการเติบโตแต่สิ่งหนึ่งที่ทายาทรุ่น 2 ได้รับมาจากธุรกิจแบบครอบครัวและยังคงยึดมั่นมาตลอด คือ ความจริงใจและความซื่อสัตย์กับลูกค้า นอกเหนือไปจากคุณภาพของงานที่เป็นจุดเด่นของนวนครพลาสติก

           “ลูกค้าคือหัวใจขององค์กร เราเอาใจใส่และทุ่มเทกับการให้บริการลูกค้าไม่ว่าจะเป็น Invoice หลักสิบหรือหลักล้านเราดูแลเหมือนกัน เรามั่นใจในเรื่องความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมากับลูกค้า อย่างใบเสนอราคาทุกใบเราลงรายละเอียดให้เต็มที่เพราะอยากให้ลูกค้าได้งานที่เขาพอใจในราคาที่เขารับได้ เรื่องคุณภาพงานก็เป็นจุดแข็งที่เรามั่นใจ เราเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ รวมถึงบุคลากรที่มีความสามารถและคุ้นเคยกับพลาสติกเป็นอย่างดี นอกจากนี้ การจัดส่งหรือผลิตงานเสร็จตรงเวลาก็เป็นสิ่งที่เราได้รับการประเมินจากลูกค้าในระดับ A เสมอ”

           เมื่อถามถึงแนวโน้มของธุรกิจแปรรูปพลาสติกและเป้าหมายในอนาคต คุณจักรพงศ์ สิทธิจิตวัฒน์ กล่าวว่าธุรกิจการแปรรูปพลาสติกน่าจะยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากจุดเด่นของพลาสติกในแง่ที่มีคุณสมบัติหลากหลาย สามารถนำไปใช้งานได้อย่างกว้างขวางและทดแทนวัสดุอื่นได้ สำหรับเป้าหมายของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้านั้น แน่นอนว่าย่อมต้องการสร้างการเติบโตโดยต้องพยายามรักษามาตรฐานเพื่อครองใจกลุ่มลูกค้าหลัก ทำให้ลูกค้าใหม่ๆ รู้จักบริษัทมากขึ้น ขยายฐานลูกค้าในพลาสติกบางตัวที่ยังมีลูกค้าน้อย และมีแผนที่จะนำเสนอพลาสติกเกรดเฉพาะที่ช่วยให้ลูกค้าลดต้นทุนการผลิตได้เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่ยั่งยืนกว่า แต่อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญซึ่งที่ได้รับมาจากการทำงานแบบครอบครัว คือ การดูแลเอาใจใส่บุคลากรของบริษัท

           “สิ่งที่ผมอยากให้เป็นรูปธรรมมากที่สุดในอนาคตคือ พัฒนาภายในองค์กรให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ใช้ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้การทำงานและการสื่อสารระหว่างกันของแต่ละแผนกง่ายขึ้น แม้เครื่องจักรจะมีความสำคัญ แต่คนก็ยังเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของเรา ผมอยากเพิ่มสวัสดิการพนักงาน อยากเห็นเขามีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

           ประเด็นสุดท้าย เมื่อสอบถามว่าปัจจัยใดอีกบ้างที่จะนำพาบริษัทให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืน คุณจักรพงศ์ สิทธิจิตวัฒน์ กล่าวว่าในยุคนี้ต้องไม่เติบโตเพียงลำพัง บริษัทจำเป็นต้องมีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง

           “จากการเป็นลูกค้าของบริษัท ไทยเอ็มเอ็มเอ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เอสซีจี เคมิคอลส์ กับ มิตซูบิชิ เคมิคอล ญี่ปุ่น ทำให้ผมรู้มันไม่ใช่แค่การซื้อขาย แต่มันคือการเดินไปด้วยกัน เติบโตไปด้วยกัน ผมประทับใจและรู้สึกขอบคุณทีมขายและการตลาดของไทยเอ็มเอ็มเอ ที่ไม่ได้เข้ามาหาเราเพื่อหวังแค่ยอดสั่งซื้อแต่พาลูกค้ามาหาเรา ยามเกิดวิกฤตช่วยเราแก้ปัญหา ถือเป็น Business Partner ซึ่งมีส่วนอย่างมากที่ช่วยให้เราเติบโตขึ้นสำหรับงานแปรรูปพลาสติกประเภทอะคริลิก นี่คือสิ่งที่ผมเรียนรู้และนำไปใช้เป็นแนวปฏิบัติกับลูกค้าของผมเพื่อพัฒนาสินค้าร่วมกัน เวลาไปหาลูกค้าผมไม่ได้คิดแค่ว่าจะไปเพื่อขายของอีกต่อไป แต่ไปเพื่อนำเสนอทางเลือก ช่วยแก้ปัญหา ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์จากการที่มีนวนครพลาสติกเป็นพันธมิตรเช่นเดียวกับที่ผมได้รับ”

           การวางรากฐาน ความรู้ที่สั่งสมและความเชี่ยวชาญในการแปรรูปพลาสติก วิสัยทัศน์ที่คล้ายคลึงและแตกต่างในครอบครัว การผสมผสานวิธีการทำงานแบบเก่าและแบบใหม่เพื่อสร้างมาตรฐานให้โดดเด่นทุกประสบการณ์ที่ผ่านการเรียนรู้และปรับตัว การดูแลบุคลากรและคู่ค้าด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจ ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ทำให้บริษัทนวนครพลาสติก จำกัด เติบโตผ่านกาลเวลา จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงทุกวันนี้