Close
|
> BUSINESS TIPS > “ได้รับจากสังคม ก็ต้องส่งคืนสู่สังคม” ชีวิต การทำงาน แรงบันดาลใจ จากคุณสมาน คุณากรไพบูลย์ศิริ

“ได้รับจากสังคม ก็ต้องส่งคืนสู่สังคม” ชีวิต การทำงาน แรงบันดาลใจ จากคุณสมาน คุณากรไพบูลย์ศิริ

Publish On 04, Oct 2019 | “ได้รับจากสังคม ก็ต้องส่งคืนสู่สังคม” ชีวิต การทำงาน แรงบันดาลใจ จากคุณสมาน คุณากรไพบูลย์ศิริ

ได้รับจากสังคม ก็ต้องส่งคืนสู่สังคม”

ชีวิต การทำงาน แรงบันดาลใจ จากคุณสมาน คุณากรไพบูลย์ศิริ

กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกรียงถาวร คอนเทนเนอร์ จำกัด

 

 

 

 

คุณสมานในวัย 72 ปี ยังคงกระฉับกระเฉง และเป็นผู้พาเราชมห้องแสดงผลงานและทั่วทั้งบริเวณโรงงานของบริษัท เกรียงถาวร คอนเทนเนอร์ จำกัด ในพื้นที่ 25 ไร่ด้วยตัวเอง พร้อมกับบทสนทนาที่สร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟให้กับการทำงาน การใช้ชีวิต และเคล็ดลับความสำเร็จที่ไม่มีคำว่าล้าสมัยแม้เวลาจะผ่านไปร่วมสามสิบปีก็ตาม

 

 

 

 

คุณสมานเริ่มต้นการทำธุรกิจโรโตโมลดิ้ง (Rotomolding) ด้วยความสนใจในการผลิตผลิตภัณฑ์จากพลาสติก ได้แก่ ตู้แช่เก็บความเย็น ถังบำบัดน้ำเสีย ถังเก็บน้ำ และปล่องทิ้งขยะในงานก่อสร้างอาคารสูงและสินค้าอื่น ๆ แม้ในขั้นต้นจะต้องเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่ด้วยความขวนขวายคิดค้นเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยและสรรหาวัตถุดิบเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดีที่สุด จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและเป็นผู้ผลิตระบบโรโตโมลดิ้งชั้นนำของประเทศไทย

 

 

ผลิตภัณฑ์ของเกรียงถาวร คอนเทนเนอร์

 

บริษัท เกรียงถาวร คอนเทนเนอร์ จำกัด ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2532 เป็นโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกโดยใช้ระบบโรโตโมลดิ้ง เบื้องต้นเครื่องจักรสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ หลังจากนั้นคุณสมานได้คิดค้นเครื่องจักรในระบบโรโตโมลดิ้งที่ทันสมัยและเหมาะกับการใช้งานของบริษัท วัตถุดิบช่วงแรกนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ต่อมาทางเอสซีจีมีการพัฒนาเม็ดพลาสติก SCG™ LLDPE สำหรับระบบโรโตโมลดิ้งขึ้น ทางบริษัทจึงได้หันมาสนับสนุนเม็ดพลาสติกจาก SCG สำหรับงานโรโตโมลดิ้ง จากเริ่มแรกที่ SCG ผลิตเม็ดพลาสติกอย่างเดียว ก็พัฒนามาเป็นแบบบด ผสมสี (คอมพาวนด์) ผลิตเม็ดพลาสติกที่เหมาะสำหรับตู้แช่ แท็งก์น้ำขนาดเล็ก ขนาดใหญ่

 

 

 

 

ส่วนสำคัญที่เป็นเคล็ดลับสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเกรียงถาวร คอนเทนเนอร์ ก็คือวัตถุดิบ คุณสมานในฐานะลูกค้าผู้ใช้เม็ดพลาสติกของเอสซีจีเพื่อขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าปลายทางได้ดีที่สุด ได้แปลงสิ่งเหล่านั้นเป็นโจทย์ให้กับเอสซีจี นำไปพัฒนาเม็ดพลาสติกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด

 

“การพัฒนาเม็ดพลาสติกสำหรับผลิตตู้แช่ ปกติแล้วการทำตู้แช่นั้น เรื่องใหญ่ที่สุดคือการร่อน เพราะโฟม PU (พอลิยูรีเทน) กับพลาสติก PE (พอลิเอทิลีน) เหมือนศัตรูที่ไม่ยอมเกาะติดกัน แต่ความสามารถของคนไทยเก่งมาก สามารถผลิตเม็ดพลาสติกที่ทำให้โฟมเกาะติดกับเนื้อเม็ดพลาสติกได้ดี ทำให้สินค้ามีคุณภาพมากขึ้น ลดขั้นตอนการผลิต และลดต้นทุนจากการผลิตสินค้าได้ และผมก็ยอมรับว่าทีมงานเอสซีจีเป็นทีมงานที่เชี่ยวชาญ และไม่หยุดอยู่กับที่ พัฒนาตลอด พนักงานและผู้บริหารมีความเอาใจใส่กับทุกผลิตภัณฑ์ที่ออกมาสู่ตลาด”

 

 

ได้รับจากสังคม ก็ต้องส่งคืนสู่สังคม”

 

จากในวัยเด็กที่ต้องต่อสู้กับชีวิตที่ยากลำบาก จบ ป.7 หากมีโอกาสในการได้ช่วยเหลือสังคม คุณสมานก็จะเข้าร่วมทุกครั้งด้วยความเต็มใจ ตั้งแต่การช่วยเหลือในเรื่องเล็กน้อย กระทั่งถึงโครงการใหญ่ระดับประเทศ

 

 

 

 

“จุดเริ่มต้นของการเข้ามาทำงานเพื่อสังคมเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว จากที่ ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ซึ่งผมนับถือท่านเปรียบเหมือนเป็นพี่ชาย ท่านได้ออกหน่วยช่วยเหลือชาวไทยภูเขาในพื้นที่โครงการหลวงในนามกลุ่มประชาอาสาเพื่อสนับสนุนโครงการหลวง ทางพี่หมอจึงได้ชักชวนผมและภรรยาขึ้นไปดูการทำงานของกลุ่มประชาอาสาฯ และความเป็นอยู่ของชาวไทยภูเขา ซึ่งได้เห็นว่าเป็นชีวิตที่น่าสงสาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ สุขอนามัย การทำมาหากิน ผมจึงกลับมารวบรวมเพื่อนฝูงและผู้มีจิตศรัทธาเป็นทีมงานขึ้นไปช่วย นำเครื่องอุปโภค บริโภคไปบริจาค และสร้างสำนักสงฆ์ให้ชาวไทยภูเขาได้มีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ให้นับถือศาสนาพุทธ สร้างโรงเรียน ร่วมสร้างหอสมุดให้กับโรงเรียนในพื้นที่ของโครงการหลวง บริจาคถังเก็บน้ำให้กับชุมชนในพื้นที่โครงการหลวง”

 

“จนกระทั่งกลุ่มประชาอาสาก็โตขึ้นมาเรื่อยๆ ช่วงนั้นศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี มีภารกิจมากขึ้น ผมจึงได้รับเกียรติให้ดำเนินงานต่อในฐานะประธานกลุ่มประชาอาสาฯ กลุ่มประชาอาสาฯ ออกหน่วยทุกเดือนพร้อมคณะแพทย์ ทันตแพทย์ ช่างตัดผม นำสิ่งของอุปโภคและบริโภคไปบริจาคทุกครั้ง ทำมาจนกระทั่งผ่านไป 23 ปี ในปี พ.ศ. 2552 ผมจึงทำหนังสือกราบทูลหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ขอยุติการทำงานของกลุ่มประชาอาสาเพื่อสนับสนุนโครงการหลวง ผมต้องขอบพระคุณพี่หมอเป็นอย่างยิ่ง ที่เป็นผู้ชักชวนให้ผมได้มีโอกาสเริ่มทำงานให้กับสังคม หลังจากนั้นมา ผมก็ยังทำงานช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด เพราะมีประโยคหนึ่งในชีวิตการทำงานของผม ก็คือ ‘เราได้รับจากสังคม ก็ต้องส่งคืนสู่สังคม’”

 

 

 

 

“มูลนิธิเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นแกนนำร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม อพวช. โรงพยาบาลรามาธิบดี และหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัด จัดงานเพื่อนำความรู้ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น วิทยาศาสตร์ เพศศึกษา และอื่นๆ ไปจัดแสดงให้เด็กผู้ขาดแคลนโอกาสในพื้นที่ห่างไกลความเจริญได้มีโอกาสเรียนรู้ การจัดงานครั้งล่าสุดที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทางเอสซีจีก็ไปได้ร่วมให้ความรู้เรื่องปิโตรเคมี ความเป็นมาของพลาสติก และแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยสอนให้เด็กๆ รู้จักวิธีการ #ใช้ให้คุ้ม #แยกให้เป็น #ทิ้งให้ถูก”

 

จากการทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด คุณสมานและครอบครัวจึงริเริ่มโครงการเพื่อสังคม คือ “โครงการเก้าอี้สุขาพาสุข” โดยมอบให้ทั่วทั้งประเทศไทยและในประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

 

 

โครงการเก้าอี้สุขาพาสุข เริ่มต้นขึ้นจากการที่ผมต้องเดินทางจากย่างกุ้งไปทำธุรกิจที่เมืองเมาะละแหม่ง ประเทศพม่า ระหว่างทางผมได้แวะรับประทานอาหารและทำธุระส่วนตัว ปรากฏว่าห้องส้วมเป็นแบบนั่งยอง ด้วยตัวผมเองเปลี่ยนเข่ามาหลายปีซึ่งการนั่งยองเป็นข้อห้ามสำคัญ จึงได้คิดมุมกลับว่าผู้สูงอายุ ผู้พิการในต่างจังหวัดบ้านเรา เวลาเข้าห้องน้ำ ถ้าไม่มีชักโครก ใช้ส้วมนั่งยองๆ จะลำบากมากในการทำธุระส่วนตัว พอกลับมาถึงกรุงเทพเลยคุยกับฝ่ายออกแบบว่าอยากได้เก้าอี้สุขา เราใช้เวลาในการออกแบบนานพอสมควรจนคิดว่าตัวนี้สมบูรณ์แบบที่สุดก็ไปจดสิทธิบัตร และเกิดเป็นโครงการ “เก้าอี้สุขาพาสุข” มอบเก้าอี้สุขาให้กับประชาชน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย จังหวัดละ 500 ชุด และประเทศเพื่อนบ้าน พม่า กัมพูชา และลาว ประเทศละ 2,000 ชุด พร้อมทั้งร่วมกับสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยมอบอีก 50,000 ชุด รวมถึงมอบให้กับโรงพยาบาลที่อยู่ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก 19 แห่งแห่งละ 200 ชุด รวมบริจาคทั้งหมด 100,697 ชุด มูลค่าทั้งสิ้นกว่า 60 ล้านบาท”

 

 

 

 

ความอดทน ความซื่อสัตย์ และคุณธรรม

 

เพราะต้นทุนในชีวิตน้อยกว่าคนอื่น จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้คุณสมานขวนขวายหาความรู้ และพัฒนาตัวเองรวมทั้งองค์กรจนกระทั่งก้าวกระโดดได้ไกลอย่างที่ปรากฏเห็นเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน

 

“สุดท้ายนี้ ผมขอฝากข้อคิดไปถึงน้องๆ ที่เริ่มทำธุรกิจ ถ้าอยากประสบความสำเร็จจะต้องมีความอดทนและความซื่อสัตย์ มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำธุรกิจด้วยคุณธรรมจริยธรรม และนอกจากทำธุรกิจแล้วก็ควรจะแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้คืนสู่สังคมไทยด้วยครับ”

 

ไม่มีอุปสรรคใดที่จะกั้นขวางความเพียรพยายามและความปรารถนาดี อย่างที่เราได้เห็นในเส้นทางการดำเนินชีวิตของคุณสมาน คุณากรไพบูลย์ศิริ ซึ่งเป็นตัวอย่างอันดีให้กับผู้คนในการดำเนินชีวิตทั้งในแง่ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน เพื่อสร้างความสุขกับทั้งครอบครัว ไปพร้อมกับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คนในสังคมไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างยั่งยืน

 

 

 

 

 

สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติม

มูลนิธิเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต  www.fraqlife.org

โครงการเก้าอี้สุขาพาสุข  www.wc-chair.org

 

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

[elementor-template id="3478"]